รัชกาลที่ ๒๓ มหาจักรพรรดิพ่อศรีมาลา กรุงสานโพธิ์(ไชยา) ปี พ.ศ.๑๕๕๑-๑๕๖๐

 

 

 

 

 

 

 

 

รัชกาลที่ ๒๓ 

มหาจักรพรรดิพ่อศรีมาลา 

กรุงสานโพธิ์(ไชยา) ปี พ.ศ.๑๕๕๑-๑๕๖๐

 

ปี พ.ศ.๑๕๕๑ เมื่อ มหาจักรพรรดิพ่อศรีจุลนีพรหมทัต(พ.ศ.๑๕๓๔-๑๕๕๑) สวรรคต จักรพรรดิพ่อศรีมาลา ซึ่งเป็นพระราชโอรส ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติมีพระนามว่า มหาจักรพรรดิพ่อศรีมาลา(พ.ศ.๑๕๕๑-๑๕๖๐) โดยมี พระนางเม่งกุ้ย ราชธิดาของ ฮ่องเต้เจิ้นจง(พ.ศ.๑๕๔๐-๑๕๖๕) เป็นอรรคมเหสี แห่ง สหราชอาณาจักรเสียม-หลอ กรุงสานโพธิ์ (ไชยา) โดยมี พ่อพระยาสงครามวิชัย เป็น จักรพรรดิ ว่าราชการอยู่ที่ กรุงสิริธรรมนคร(นครศรีธรรมราช) และมี พ่อศรีสุริยะ เป็น นายก ว่าราชการอยู่ที่ กรุงศรีโพธิ์(ไชยา) เป็นรัชกาลที่ ๒๒ ของ สหราชอาณาจักรเสียม กรุงสานโพธิ์ (ไชยา) 

ปี พ.ศ.๑๕๕๑ มหาจักรพรรดิพ่อศรีมาลา(พ.ศ.๑๕๕๑-๑๕๖๐) แห่ง สหราชอาณาจักรเสียม-ล้อ ได้ส่งคณะราชทูตไปยัง ฮ่องเต้เจิ้นจง(พ.ศ.๑๕๔๐-๑๕๖๕) ราชวงศ์ซ้อง แห่ง มหาอาณาจักรจีน พร้อมกับพระราชโอรส คือ เจ้าชายจูหลิน ซึ่งเป็นพระเจ้าหลานเธอของ ฮ่องเต้เจิ้นจง แห่ง มหาอาณาจักรจีน ด้วย จะเห็นว่า ฮ่องเต้เจิ้นจง(พ.ศ.๑๕๔๐-๑๕๖๕) แห่ง มหาอาณาจักรจีน ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มีการบันทึกไว้มีข้อความครั้งนั้นไว้ว่า…….

...ต้าจงเสียงฝูศก ปีแรก (..๑๕๕๑) มหาจักรพรรดิ แห่ง สหราชอาณาจักรเสียม กรุงสานโพธิ์(สานโฟชิ) มีพระนามว่า มหาจักรพรรดิพ่อศรีมาลา(ซีลี-หมา-หลัว) ได้ส่งคณะราชทูต มีราชทูตชื่อ พระยาเหมยตี้(หลี่-เหมย-ตี้) อุปทูตชื่อ พระเจ้าหลานเธอจูหลิน(ผู-ผอ-หลาน แปลว่า พระเจ้าหลานเธอ หมายถึง เจ้าชายจูหลิน) มีเครื่องราชบรรณาการ มาถวาย ด้วย ฮ่องเต้ ทรงโปรดฯ ให้ พระเจ้าหลานเธอ ตามเสด็จไปร่วมงาน พระราชพิธีบวงสรวงที่ ภูเขาไท่ซาน ด้วย อีกทั้ง ฮ่องเต้ ได้พระราชทานสิ่งของตอบแทนมากเป็นพิเศษ อีกด้วย... 

ปี พ.ศ.๑๕๕๓ พระเจ้าปุกุวิชัย แห่ง อาณาจักรจามปา(เวียตนามใต้) กรุงวิชัย ได้เสด็จสวรรคต พระเจ้าหริวรมัน ที่-๓ ได้ขึ้นครองราชย์ ปกครอง อาณาจักรจามปา กรุงวิชัย แทนที่

(จาก ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ โดย ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล หน้าที่ ๑๓๓)

ปี พ.ศ.๑๑๕๓ กองทัพของ พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑(พ.ศ.๑๕๕๓-๑๕๙๓) ราชวงศ์ทมิฬโจฬะ แห่ง ราชอาณาจักรกัมพูชา(ขอม-เขมร) กรุงนครวัด สามารถทำสงครามยึดครอง กรุงพระนคร(นครวัด) ราชธานี ของ ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นผลสำเร็จสำเร็จ มหาราชาพระยาอุทัยทิตย์(พ.ศ.๑๕๔๔-๑๕๕๓) หรือ พระเจ้าอุทัยทิตย์วรมันที่ ๑ แห่ง อาณาจักรคามลังกา กรุงพระนคร เสด็จสวรรคต ในสงคราม มีพระนามเมื่อสวรรคต ว่า บรมศิวโลก

(ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล  ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ สมาคมประวัติศาสตร์ หน้าที่ )

ปี พ.ศ.๑๕๕๓ มหาราชาอุทัยทิตย์(พ.ศ.๑๕๔๔-๑๕๕๓) หรือ พระเจ้าอุทัยทิตย์วรมันที่ ๑ แห่ง อาณาจักรคามลังกา กรุงพระนคร เสด็จสวรรคต ด้วยสงคราม ด้วยกองทัพของ พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑(พ.ศ.๑๕๕๓-๑๕๙๓) ราชวงศ์ทมิฬโจฬะ แห่ง อาณาจักรเจนละ(เขมร) สามารถยึดครอง อาณาจักรคามลังกา ไปปกครอง สำเร็จ มหาราชาสุริยวรมัน(พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑) ชนชาติทมิฬโจฬะ ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติ ปกครอง อาณาจักรคามลังกา เมืองพระนคร เป็นรัชกาลถัดมา และนำ อาณาจักรเจนละ(เขมร) มารวมกับ อาณาจักรคามลังกา เรียกชื่อใหม่ว่า อาณาจักรกำพูชา

(จาก ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ โดย ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล หน้าที่ ๑๘๖)

ปี พ..๑๕๕๔ นั้น พระภิกษุชาวอินเดีย ชื่อ อติสสะ ต้องเดินทางมาศึกษาพุทธศาสนา ณ สหราชอาณาจักรเสียม-หลอ กรุงสานโพธิ์(ไชยา) ในสำนักของ พระเถระธรรมกิรติ อธิการบดี ของ มหาวิทยาลัยโพธิ์นารายณ์ เป็นเวลาถึง ๑๒ ปี เพื่อนำพุทธศาสนา กลับไปเผยแพร่ในดินแดน ของ ประเทศอินเดีย อีกครั้งหนึ่ง และต่อมาในภายหลัง พระภิกษุอติสสะ ได้นำ พระไตรปิฎก ในพระพุทธศาสนา ไปแก้ไขปรับปรุงเป็น ลัทธิพระพุทธศาสนา ที่ถูกนำใช้ในดินแดน ประเทศ ธิเบต สืบทอดกันมา จนถึงปัจจุบัน มีบันทึกอยู่ในหนังสือชื่อ บุชน เป็นภาษาทิเบต มีบันทึกว่า...

...ตั้งแต่ปี พ.ศ.๑๕๕๔-๑๕๕๖ พระอดิศะ ก็ได้มาศึกษากับ พระธรรมกีรติ ผู้เป็นหัวหน้าคณะสงฆ์ ในดินแดนเกาะสุวรรณทวีป ในรัชกาล ของ พระเจ้าธรรมปาละ...

(จาก ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ โดย ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล หน้าที่ ๕๖)

ปี พ..๑๕๕๕ พระเจ้าราเชนทรโจฬะที่ ๑ ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติปกครอง มหาอาณาจักรทมิฬโจฬะ ในดินแดนของ ประเทศอินเดีย

ปี พ.ศ.๑๕๕๕ พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑(พ.ศ.๑๕๕๓-๑๕๙๓) ราชวงศ์ทมิฬโจฬะ แห่ง อาณาจักรกำโพชา(กำโพธิ์ช้า-เขมร) ได้ส่ง รถพระที่นั่ง ไปถวายให้กับ พระเจ้าราเชนทรโจฬะที่ ๑ มหาจักรพรรดิ แห่ง สหราชอาณาจักรทมิฬโจฬะ อินเดีย เพื่อแสวงหาพันธมิตร ในการทำสงคราม กับ สหราชอาณาจักรเสียม กรุงสานโพธิ์(ไชยา)

(จาก ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ โดย ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล หน้าที่ ๑๘๗)

ปี พ..๑๕๕๗ พระเจ้าราชราชา แห่ง อาณาจักรทมิฬโจฬะ แห่ง อินเดียภาคใต้ ได้เสด็จสวรรคต เป็นเหตุให้ พระราชโอรส ทรงพระนามว่า พระเจ้าราเชนทร (ราชาจูหลัน) ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติเป็น มหาจักรพรรดิ ปกครอง สหราชอาณาจักรทมิฬโจฬะ ซึ่งมีศูนย์กลางอำนาจรัฐอยู่ที่ อินเดียภาคใต้ มีอำนาจยิ่งใหญ่มากขึ้น และ เริ่มแผ่อิทธิพลมายัง อาณาจักรต่างๆ ในดินแดนเกษียรสมุทร และ ดินแดนสุวรรณภูมิ อีกด้วย

ปี พ.ศ.๑๕๕๘ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในดินแดนสุวรรณภูมิ

      ปี พ.ศ.๑๕๕๙ สหราชอาณาจักรทมิฬโจฬะ ส่งกองทัพเข้ายึดครอง อาณาจักรม้าตาราม เกาะชวา เป็นผลสำเร็จ สามารถทำลายราชธานี กรุงม้าตาราม พร้อมกับ มหาราชาพระเจ้าธรรมวงศ์ สวรรคต ในสงคราม ราชวงศ์ทมิฬโจฬะ จึงเข้ายึดครอง อาณาจักรม้าตาราม เป็นผลสำเร็จ ราชวงศ์สันชัย แห่ง อาณาจักรม้าตาราม จึงสิ้นสุดลง

 

ปี พ.ศ.๑๕๖๐ มหาจักรพรรดิพ่อศรีมาลา(พ.ศ.๑๕๕๑-๑๕๖๐) แห่ง สหราชอาณาจักรเสียม-หลอ กรุงสานโพธิ์(ไชยา) สวรรคต เจ้าชายจูหลิน(พ่อศรีสุริยะ) พระราชโอรส ยังทรงพระเยาว์ ขึ้นครองราชย์ ในรัชกาลถัดมา

Visitors: 54,417